ลอตเตอรี่ งวด วัน ที่ 1 กุมภาพันธ์ 63
โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นคาดว่ามาจากประเด็นที่ บริษัท ไทยบริติช ซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TBSP ระบุว่า มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) ได้ขายหุ้นจำนวน 3,520,000 หุ้น คิดเป็น 32% ของทุนชำระแล้วของ TBSP ให้นางสาว สุธิดา มงคลสุธี ที่ราคาหุ้นละ 131.50 บาทโดยการส่งออกเดือนตุลาคม 2558 มีมูลค่า 18,566 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 8.11% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนซึ่งสูงถึง 20,206 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากช่วงต้นปี 57 การส่งออกชะลอตัวจากปัจจัยทางการเมือง และกลับมาฟื้นตัวในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 57 ส่งผลให้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 57 การส่งออกมีมูลค่าสูง และเป็นไตรมาสเดียวที่ขยายตัวเป็นบวกที่ 1.58% , สรุปซื้อขายกระดานรายใหญ่วันนี้ ADVANC มูลค่าสูงสุด 299.30 ลบ.ดัชนี 1,395.95 จุด เปลี่ยนแปลง +1.73 จุด มูลค่าการซื้อขาย 13,740 ล้านบาท
ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์ ต.ค.58 เพิ่มขึ้น 19.07% มาที่ 111,229 คันส่วนแนวโน้มผลประกอบการในปี 59 เชื่อว่าจะปรับตัวดีขึ้น ตามภาวะตลาดที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามภาวะเศรษฐภายในประเทศ คือการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ชัดเจน ขณะที่ยังต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจของต่างประเทศด้วย เช่น เศรษฐกิจสหรัฐฯที่ฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว เศรษฐกิจของสหภาพยุโรป และญี่ปุ่นก็ปรับตัวดีขึ้น สำหรับเศรษฐจีนยังอยู่ในภาวะประคองตัว แต่ก็ถือว่ามีอัตราเติบโตอยู่ในระดับสูง รวมถึงยังต้องติดตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยหากราคาฟื้นตัวขึ้นมาก็จะสะท้อนถึงภาพรวมการบริโภคที่ฟื้นตัวขึ้น UNIQ มีเป้าหมายสำคัญของการทำ New High อยู่ที่ 25.50 บาท (จุด Stop Loss อยู่ที่ 21.20 บาท)ขณะที่บล.กรุงศรีระบุในบทวิเคราะห์ว่า หุ้นกลุ่มน้ำมันมีโอกาสปรับขึ้นวันนี้ แต่เป็นเพียงระยะสั้น ตามการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบ WTI เมื่อคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีหากราคาหุ้นน้ำมันปรับขึ้นแรงแนะนำขายทำกำไร เพราะเชื่อว่าเหตุการณ์นี้ยังไม่บานปลาย ดังนั้นราคาน้ำมันดิบจึงปรับขึ้นชั่วคราวเท่านั้น แต่ด้วยปัญหาภาวะน้ำมันดิบที่ล้นตลาดและโอเปกไม่ยอมลดกำลังผลิตจะยังกดดันราคาน้ำมันดิบให้อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องCPF ราคาปิด : 22.90 บาทส่วนสัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวลง 1.9% ปิดที่ 2.0215 ดอลลาร์/ปอนด์,ฝ่ายวิจัยยังประเมินเหมือนศุกร์ที่ผ่านมา ว่ากระแสการสลับกลุ่มลงทุนตอนนี้จะเป็นโอกาสในการหาผลตอบแทนที่ดีในตลาด (หากเลือกถูกกลุ่ม) ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่ากลุ่มที่จะเป็นเป้ราหมายของกลุ่มลงทุนจะแบ่งเป็น กลุ่มกระแสเดิมคือ การเงิน SAWAD MTLS ท่องเที่ยว MINT CENTEL ERW AOT BA 2 กลุ่มนี้ยังสามารถที่จะลงทุนแบบเล่นรอบได้ 30 หุ้นฝรั่งไล่ซื้อ 30 หุ้นฝรั่งขายทิ้ง ประจำวันที่ 24 พ.ย.58
ปัจจุบันผู้ผลิตยางธรรมชาติรายใหญ่ของโลกประกอบด้วยประเทศไทย อินโดนีเซีย เวียดนามและมาเลเซีย ผลผลิตโดยรวมจากทั้ง 4 ประเทศคิดเป็น 79% ของผลผลิตทั่วโลกที่มีปริมาณ 5.6 ล้านตันในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 โดยประเทศไทยเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดด้วยผลผลิตรวมทั้งสิ้น 2.01 ล้านตัน รองลงมาได้แก่ประเทศอินโดนีเซีย (1.62 ล้านตัน) ประเทศเวียดนาม (0.41 ล้านตัน) และประเทศมาเลเซีย (0.35 ล้านตัน) ส่วนในด้านของการบริโภคนั้น ความต้องการยางธรรมชาติปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2554-2557 ที่ผ่านมาจาก 10.79 ล้านตันในปี 2553 มาอยู่ที่ 12.16 ล้านตันในปี 2557 เติบโตเฉลี่ยประมาณ 3.0% ต่อปี ประเทศจีนเป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุด ซึ่งคิดเป็น 39.2% ของปริมาณผลผลิตยางธรรมชาติทั่วโลก การบริโภคยางธรรมชาติทั่วโลกเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 1.4% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและราคาน้ำมันดิบที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ International Rubber Study Group (IRSG) คาดการณ์ว่าผลผลิตยางธรรมชาติของโลกจะมีมากกว่าความต้องการยางธรรมชาติที่จำนวน 303,000 ตัน ในปี 2558 , พอร์ตเล่นรอบระยะกลาง รอเปิด Short ที่บริเวณ 1100 ดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายการทำกำไรที่ 1070 ดอลลาร์ และมีจุดตัดขาดทุนที่ 1130 ดอลลาร์ การลงทุนเพิ่มในครั้งนี้ส่งผลทำให้มูลค่าทรัพย์สินของTREITมีขนาดใหญ่ขึ้นโดยเพิ่มเป็น 7,504 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับกองทรัสต์ในสายตาของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนการเพิ่มสภาพคล่องให้ดีขึ้นด้วย นอกจากนี้ TREIT ยังมีนโยบายจ่ายผลตอบแทนไม่น้อยกว่าปีละ 2 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่า 90%ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว นายจรัสฤทธิ์กล่าว ทั้งนี้ผลการดำเนินงานดังกล่าวที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนขายและบริการ ลดลง 166 ล้านบาท คิดเป็น 23% เนื่องจากบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น ทำให้กำไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 19% เป็น 25% ของยอดขายบริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรีเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจแปรรูปและจำหน่ายยางธรรมชาติในตลาดโลก ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานแปรรูป 26 แห่งในประเทศไทย 3 แห่งในประเทศอินโดนีเซีย และอีก 1 แห่งในประเทศพม่า ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 บริษัทมีกำลังการผลิตยางแปรรูปทั้งสิ้น 1,467,544 ตันต่อปี บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดยางธรรมชาติทั่วโลกเท่ากับ 8.8% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางประมาณ 80% ให้แก่ผู้ประกอบการโดยตรงซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตยางรถยนต์ โดยมียอดส่งออกคิดเป็น 84% ของปริมาณขายในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 ตลาดส่งออกของบริษัทคือประเทศจีนซึ่งมีมูลค่าคิดเป็น 51% ของปริมาณยอดส่งออกทั้งหมดหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลง โดยหุ้นอันโตฟากัสต้า ดิ่งลง 2.4% หุ้นเกลนคอร์ ร่วงลง 2.2% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดิ่งลง 1.7%,หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง โดยหุ้นโททาล ร่วงลง 1.1% หุ้นบีจี กรุ๊ป ปรับลง 0.7%
(บรรณาธิการ:admin )
ความคิดเห็นล่าสุด